Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
Ascorbyl Glucoside หรือที่นิยมเรียกว่า AA-2G คือ วิตามินซี ชนิดเสถียร สามารถผสมในน้ำได้ทันที สังเคราะห์ขึ้นโดยเกิดจากน้ำตาลกลูโคลรวมตัวกับ L-Ascorbic Acid
มีประสิทธิภาพทั้งในด้าน whitening ให้ผิวกระจ่างใส และด้านลดอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนของผิว
ความแตกต่างระหว่าง L-Ascorbic Acid ธรรมดา และ Stabilized Vitamin C (AA-2G)
- AA2G™ มีความเสถียรแม้อยู่ในน้ำ หรือความร้อนในระดับไม่เกิน 40องศา ทำให้สามารถใช้ผสมได้ง่าย
- AA2G™ มีความสามารถในการดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ดีเทียบเท่ากับ L-Ascorbic Acid ซึ่งแตกต่างจาก อนุพันธ์ Vitamin C ชนิดอื่น เช่น Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) / Magnesium Ascorbyl Phosphate(MAP) ซึ่งไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย
รูปที่1: เปรียบเทียบความเสถียรของ AA-2G และ Vitamin C (L-Ascorbic Acid) ในน้ำ พบว่า AA-2G มีความเสถียรมากกว่า L-Ascorbic Acid อย่างชัดเจน
มีประสิทธิภาพทั้งในด้าน whitening ให้ผิวกระจ่างใส และด้านลดอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนของผิว
ความแตกต่างระหว่าง L-Ascorbic Acid ธรรมดา และ Stabilized Vitamin C (AA-2G)
- AA2G™ มีความเสถียรแม้อยู่ในน้ำ หรือความร้อนในระดับไม่เกิน 40องศา ทำให้สามารถใช้ผสมได้ง่าย
- AA2G™ มีความสามารถในการดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ดีเทียบเท่ากับ L-Ascorbic Acid ซึ่งแตกต่างจาก อนุพันธ์ Vitamin C ชนิดอื่น เช่น Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) / Magnesium Ascorbyl Phosphate(MAP) ซึ่งไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย
รูปที่1: เปรียบเทียบความเสถียรของ AA-2G และ Vitamin C (L-Ascorbic Acid) ในน้ำ พบว่า AA-2G มีความเสถียรมากกว่า L-Ascorbic Acid อย่างชัดเจน
รูปที่2: เปรียบเทียบการดูดซึมเข้าสู่ fibroblast ในชั้นใต้ผิวหนัง พบว่า AA2G™ สามารถดูดซึมสู่ผิวได้อย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า แม้ในระดับต่ำกว่า Vitamin C L-Ascorbic Acid ในช่วงแรก
รูปที่3: เปรียบเทียบการนำไปใช้งานของผิวหนัง โดย ผิวหนังสามารถย่อยสลาย AA2G™ และสามารถนำไปใช้งานได้ง่าย แม้เทียบกับ L-Ascorbic Acid ที่สามารถนำไปใช้งานได้ทันทีไม่ต้องย่อยสลายอีก
รูปที่4: เปรียบเทียบประสิทธิภาพ whitening ของ AA2G™ แสดงให้เห็นว่า สามารถช่วยให้สีผิวจางลงได้
คำแนะนำในการผสม:
AA2G จะมีความเป็นกรดสูง เมื่อผสมในน้ำ แต่จะเสถียรเมื่ออยู่ใน pH ช่วง 6.5-6.8 การผสมจะต้องใช้ pH Meter วัดและปรับค่า pH ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ตัวอย่างการละลาย AA2G ในน้ำ
ในกระบวนการที่นำ AA2G ละลายเข้ากับน้ำ อาจทำให้ pH ของของเหลว ลดลงต่ำมาก เนื่องจากความเป็นกรดสูงของ AA2G จึงแนะนำให้เติม Citrate Buffer ตามตัวอย่างด้านล่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ AA2G เสียคุณภาพไปบางส่วน ในช่วงที่อยู่ภายใต้ความเป็นกรดสูง
การเตรียม Citrate Buffer: ผสม Citric Acid 1%, Sodium Citrate 15%, Water 84%
โดยใช้ Citrate Buffer ในอัตราเท่าๆกับ AA2G ในสูตร ตัวอย่างเช่น หากใช้ AA2G 2% ในสูตร ให้ใช้ Citrate Buffer 2% เช่นกัน
โดยให้ผสม Citrate Buffer เข้ากับ น้ำของสูตร จากนั้นจึงเติม AA2G ลงในสูตร และวัดค่า pH แล้วจึงปรับค่า pH ด้วยการเติมด่าง เช่น TEA (Triethanolamone) หรือ Sodium Hydroxide โดยจะต้องปรับให้ค่า pH อยู่ในช่วง 6.5-6.8 ซึ่งจะช่วยทำให้ AA2G มีความเสถียรสูงสุด
หากไม่สะดวกในการเตรียม Citrate Buffer ตามคำแนะนำด้านบน กรุณาใช้ L-Arginine ในอัตรา 1:2 (L-Arginine 1 ส่วน ต่อ AA2G 2 ส่วน) ผสมให้เข้ากันดี แล้วละลายในน้ำพร้อมกัน L-Arginine จะสามารถช่วยควบคุมค่า pH เพื่อไม่ให้ AA2G เสื่อมคุณภาพได้
สูตรห้ามมี Safe-B3 หรือ Zinc PCA เนื่องจากจะกระทบต่อความเสถียรของ AA-2G
ความแตกต่างของ Vitamin C แต่ละชนิด ที่บริษัทจำหน่าย:
แนะนำใช้ Protec™ OX และ Protec™ UV ในสูตร เพื่อช่วยปกป้อง Vitamin C จากการเสื่อมคุณภาพ
AA2G จะมีความเป็นกรดสูง เมื่อผสมในน้ำ แต่จะเสถียรเมื่ออยู่ใน pH ช่วง 6.5-6.8 การผสมจะต้องใช้ pH Meter วัดและปรับค่า pH ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ตัวอย่างการละลาย AA2G ในน้ำ
ในกระบวนการที่นำ AA2G ละลายเข้ากับน้ำ อาจทำให้ pH ของของเหลว ลดลงต่ำมาก เนื่องจากความเป็นกรดสูงของ AA2G จึงแนะนำให้เติม Citrate Buffer ตามตัวอย่างด้านล่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ AA2G เสียคุณภาพไปบางส่วน ในช่วงที่อยู่ภายใต้ความเป็นกรดสูง
การเตรียม Citrate Buffer: ผสม Citric Acid 1%, Sodium Citrate 15%, Water 84%
โดยใช้ Citrate Buffer ในอัตราเท่าๆกับ AA2G ในสูตร ตัวอย่างเช่น หากใช้ AA2G 2% ในสูตร ให้ใช้ Citrate Buffer 2% เช่นกัน
โดยให้ผสม Citrate Buffer เข้ากับ น้ำของสูตร จากนั้นจึงเติม AA2G ลงในสูตร และวัดค่า pH แล้วจึงปรับค่า pH ด้วยการเติมด่าง เช่น TEA (Triethanolamone) หรือ Sodium Hydroxide โดยจะต้องปรับให้ค่า pH อยู่ในช่วง 6.5-6.8 ซึ่งจะช่วยทำให้ AA2G มีความเสถียรสูงสุด
หากไม่สะดวกในการเตรียม Citrate Buffer ตามคำแนะนำด้านบน กรุณาใช้ L-Arginine ในอัตรา 1:2 (L-Arginine 1 ส่วน ต่อ AA2G 2 ส่วน) ผสมให้เข้ากันดี แล้วละลายในน้ำพร้อมกัน L-Arginine จะสามารถช่วยควบคุมค่า pH เพื่อไม่ให้ AA2G เสื่อมคุณภาพได้
สูตรห้ามมี Safe-B3 หรือ Zinc PCA เนื่องจากจะกระทบต่อความเสถียรของ AA-2G
ความแตกต่างของ Vitamin C แต่ละชนิด ที่บริษัทจำหน่าย:
- Ethyl Ascorbic Acid : วิตามินซี ละลายในน้ำ มีความเสถียรสูง ผสมได้ง่าย มีประสิทธิภาพปานกลาง ในด้านความกระจ่างใส (whitening)
- Perfect-C ™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) : วิตามินซี ละลายในน้ำมัน มีความเสถียรปานกลาง มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว
- Ascorbyl Glucoside (AA2G™, Stable Vitamin C) : วิตามินซี ละลายในน้ำ มีความเสถียรปานกลาง มีขั้นตอนการผสมที่ซับซ้อน (ต้องปรับค่า pH ให้เหมาะสม) มีประสิทธิภาพสูงในด้านความกระจ่างใส (whitening) และริ้วรอย (anti-oxidant)
- Vitamin C (L-ascorbic acid) Ultra-Fine , Vitamin C (L-ascorbic acid) Fine : วิตามินซี ละลายในน้ำ สามารถละลายน้ำได้เร็วมากและกระจายตัวได้ดีมาก มีความเสถียรต่ำ มีขั้นตอนการผสมที่ซับซ้อน มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว
- Vitamin C (L-ascorbic acid): วิตามินซี ละลายในน้ำ มีความเสถียรต่ำ มีขั้นตอนการผสมที่ซับซ้อน มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว
- Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum : วิตามินซี เบสสำเร็จรูป มีความเสถียรสูง แต่ไม่สามารถปรับแต่งหรือเติมส่วนผสมอื่นๆได้ เนื่องจากจะกระทบกับความเสถียรของเบส มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว
- Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) : วิตามินซี ละลายน้ำ มีความเสถียรสูง ผสมได้ง่าย มีประสิทธิภาพปานกลาง ในด้านความกระจ่างใส (whitening)
- Max-C™ Serum (เปรียบเทียบ The Ordinary Vitamin C Suspension) : วิตามินซี เบสสำเร็จรูป มีความเสถียรสูง ปราศจาก Silicone โดยมีความเข้มข้น Vitamin C สูง 23% จาก Vitamin C ใน 2 รูปแบบ เพื่อให้สามารถออกฤทธิ์ได้อย่างสมบูรณฺ ไม่สามารถปรับแต่งหรือเติมส่วนผสมอื่นๆได้ มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้านริ้วรอย (anti-oxidant) ความกระจ่างใส (whitening) และความนุ่มฟู (ระดับ collagen) ของผิว
- Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate) : วิตามินซี ชนิดละลายในน้ำมัน เหมาะสำหรับใช้ทำหน้าที่เป็น anti-oxidant ในสูตรน้ำมัน มีประสิทธิภาพด้านอื่นๆน้อย เมื่อเทียบกับ Vitamin C รูปแบบอื่นๆ
แนะนำใช้ Protec™ OX และ Protec™ UV ในสูตร เพื่อช่วยปกป้อง Vitamin C จากการเสื่อมคุณภาพ